วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2561

เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับหุ่นสวย


ทำไมผู้หญิงถึงต้องหุ่นดี?



        เด็กสาวถึงเก้าในสิบสารภาพว่าพวกเธอไม่พอใจกับรูปร่างปัจจุบันของตัวเอง และเชื่อว่าผู้หญิงที่ผอมกว่าจะมีความสุขมากกว่า เป็นที่รักและชื่นชอบของเพื่อน ๆ และคนทั่วไปมากกว่า ส่วนเด็กสาวที่อวบอ้วนก็ขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะคิดว่าผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงเจ้าเนื้อ และพยายามที่จะกลายเป็นคนผอมให้ได้ เราจึงได้เห็นผู้หญิงพยายามควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย ซึ่งมีเหตุผลหลักๆดังนี้ 



1.เพื่อมีเสน่ห์มากขึ้นในสายตาผู้ชาย
        ผู้หญิงทุกคนอยากจะดูสวยและมีเสน่ห์ อยากจะเป็นที่สะดุดตาของผู้ชาย ซึ่งเป็นหนทางหนึ่งที่ทำให้เธอได้เปลี่ยนสถานะจากผู้ถูกเลือกให้กลายเป็นผู้เลือกบ้าง เธอเชื่อว่าเมื่อผอมเธอจะดูสวยขึ้น มีเสน่ห์เป็นที่สนใจของหนุ่ม ๆ ได้มากขึ้น 

2.จะได้ใส่เสื้อผ้าได้หลายแบบ
        อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็อยากผอม ก็เพื่อต้องการใส่เสื้อผ้าอะไรก็ได้ แต่งตัวได้สวยและสนุก โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดว่าฉันใส่ไม่ได้เพราะอกใหญ่ เอวหนา สะโพกกว้าง แขนล่ำ ฯลฯ

3.เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง 
        รูปร่างที่ดีทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาก ไม่ต้องเหนียมอายว่ายกแขนแล้วจะเห็นต้นแขนใหญ่ ๆ ใส่เสื้อสั้นแล้วพุงจะโผล่ ใส่กางเกงแล้วจะรัดเนื้อปลิ้นพอรูปร่างดีจะขยับเขยื้อนตัวหรือทำกิจกรรมอะไรก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมาก

4.เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า 
        น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาไม่กี่กิโล อาจไม่ได้ทำให้ดูอ้วนขึ้นมากเท่าไหร่ แต่อาจส่งผลยิ่งใหญ่กับสุขภาพ โดยเฉพาะโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันฯลฯ


หุ่นสวยสำคัญอย่างไร?



        -ไม่เสี่ยงป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคเบาหวานและความดัน โรคอ้วน และโรคหัวใจ เป็นต้น เพราะในเมื่อออกกำลังกายทุกวันแล้วเลือดลมก็ไหลเวียนปกติดี ของเสียที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายก็ถูกเบิร์นออกหมดไม่มีเหลือสะสมไว้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 

       - ระบบการทำงานของร่างกายคุณสาว ๆ จะสมดุลมากขึ้น นั่นคือ นอนหลับสนิท ตื่นมาอย่างสดชื่น และมีพลังในการทำงานไปตลอดทั้งวัน
     
      - คุณจะสนุกกับการคิดไอเดียอาหารสุขภาพใหม่ ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เพราะอยากให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดจากอาหารที่กินเข้าไปในแต่ละมื้อ       
      
      - ทำให้คุณสาว ๆ แต่งตัวไปทำงานเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาอยู่กับชุดเดรสที่ใส่แล้วคับติ้ว หรือแม้แต่กางเกงยีนส์ที่ติดกระดุมไม่ได้ หมดห่วงเรื่องการไปทำงานสายได้เลยซึ่งเหตุผลเหล่านี้ก็จะทำให้คุณสาวๆ มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพิ่มเสน่ห์ให้น่าดึงดูดจากเพศตรงข้าม  รวมถึงความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างด้วยนะ รู้แบบนี้แล้วก็อย่ามัวปล่อยให้ตัวเองดูโทรมไปจนถึงสิ้นปีเลย รีบลุกขึ้นมาดูแลตัวเองซะตั้งแต่วันนี้



ผลตอบแทนจากการดูแลตัวเอง


1.ทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายมีสภาพสมบูรณ์และเป็นปกติ ทรุดโทรมช้า
2.ทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ และมีประสิทธิภาพ
3.ทำให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
4.ทำให้ฟื้นจากความเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นคนที่ร่าเริงแจ่มใส มีอารมณ์ดีและมองโลกในแง่ดี
5.ทำให้อายุยืนยาว ทำให้เป็นผู้ที่มีพลังในการประกอบกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

เมื่อคนเราอยากมีหุ่นดี ผอมเพรียวสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญ คือ?

1.เรื่องอาหารการกิน โดยข้อมูลที่ควรทราบเบื้องต้น มีดังนี้

     1.1 มื้ออาหาร ตัวอย่างมื้ออาหารที่ควรได้รับในแต่ละวัน

  อาหารลดน้ำหนักมื้อเช้า
         สำหรับมื้อเช้าจัดเป็นมื้ออาหารที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงที่สมองของเราต้องเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งการรับประทานอาหารในมื้อเช้านี้นอกจากจะช่วยให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง สมองมีพลังในการบรรเจิดไอเดียต่างๆ แล้ว ยังช่วยให้ไม่อ้วนง่ายเมื่อเทียบกับคนที่ละเลยมื้อเช้า

เมนูมื้อเช้าแบบง่ายๆ

  • โจ๊กหมู เรียกว่าหาซื้อรับประทานได้ง่าย แถมมีประโยชน์ครบถ้วน
  • ต้มเลือดหมู เรียกว่าเป็นเมนูเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงที่มีสารอาหารครบถ้วน
  • ขนมปัง+ไข่ดาว จัดเป็นเมนูที่ทำง่ายและสะดวกมากๆ แต่ควรเลือกแผ่นขนมปังโฮลวีทแทนขนมปังขาวธรรมดา เนื่องจากมีกากใยอาหาร และสารอาหารมากกว่า
  • โยเกิร์ตผสมผลไม้สด โดยควรเลือกเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เนื่องจากมีปริมาณไขมันน้อยกว่าโยเกิร์ตรสผลไม้ แล้วใส่ผลไม้สดตามที่เราชอบลงไป
  • แกงจืด อาหารทานง่าย ซื้อไว้/ทำเองตั้วแต่ตอนเย็น ตอนเช้าก็นำมาอุ่นทานได้ทันที
  • ไข่ต้ม แนะนำการทานไข่ต้มในตอนเช้า และไม่ควรทานไข่ทอดอย่างยิ่ง บางคนอาจไม่ต้องการคอเรสเตอรอล สามารถเลือกทานเฉพาะไข่ขาวก็ได้
  • น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล น้ำเต้าหู้ถือว่าช่วยให้อยู่ท้องมากกว่าการทานกาแฟ หากใครที่ทำงานสาย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงมื้อเที่ยง น้ำเต้าหู้ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

เมนูมื้อเช้าที่ควรเลี่ยง

  • อาหารประเภททอด ไม่ว่าจะเป็น หมูทอด ไก่ทอด ปาท่องโก๋ เต้าหู้ทอด ฯลฯ
  • ขนมปังหวานควรเลี่ยง เช่น ขนมอบ เบเกอร์รี่ ขนมเค้ก
  • ขนมจีบ ซาลาเปา

อาหารลดน้ำหนักมื้อเที่ยง

        แม้ว่ามื้อเที่ยงจะได้ชื่อว่าเป็นมื้อแห่งราชา ที่สามารถรับประทานได้มากก็ตาม แต่สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ ก็ควรใส่ใจกับอาหารที่รับประทาน เพราะหากรับประทานแบบไม่ยั้งคิด มื้อกลางวันก็อาจกลายเป็นตัวการที่ทำให้อ้วนได้

เมนูสำหรับมื้อกลางวัน

  • สุกี้ไก่ หรือสุกี้ทะเล
  • ต้มยำ
  • เกาเหลา
  • ข้าวกล้อง+ไก่ผัดขิง
  • ต้มจืดวุ้นเส้น+ข้าวกล้อง
  
อาหารลดน้ำหนักมื้อเย็น
          เทคนิคในการลดน้ำหนักในมื้อเย็น คือการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปริมาณมาก โดยหลังสองทุ่มเป็นต้นไปไม่ควรรับประทานอาหารต่างๆ เข้าไป ซึ่งในช่วงเย็นก่อนสองทุ่ม อาหารลดน้ำหนักควรเลือกเป็นอาหารเบาๆ ไม่หนักท้อง เพราะในมื้อนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานเท่ากับในมื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน หากเรารับประทานเข้าไปมาก เวลานอนนอกจากอาหารจะไม่ย่อยแล้ว ไขมันยังเข้าไปแทรกซึมสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดและส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้อ้วนนั่นเอง

เมนูสำหรับมื้อเย็น

  • ผักผลไม้ต่างๆ ที่ไม่มีปริมาณน้ำตาลมาก เช่น มะละกอ แอปเปิล แครอท และอะโวคาโด เป็นต้น
  • เมี่ยงปลาทู
  • ปลานึ่ง+ผักต้ม
  • สลัดผัก ควรเลือกน้ำสลัดที่ไม่มีแคลอรีสูง
  • แกงจืดเต้าหู้ ทางที่ดีควรรับประทานคู่กับข้าวกล้องแทนข้าวขาวธรรมดา
        1.2 ปริมาณในการบริโภค
           การปรับนิสัยการกินของตนเอง ไม่กินของหวานจัด มันจัดเค็มจัดเพิ่มการกินผักและผลไม้ให้มากขึ้นเป็นการเริ่มต้น ที่ดี สำหรับการกินอะไร ได้มากน้อยแค่ไหน ยังเป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบ คำว่า “พอดี” ของ แต่ละคนไม่เท่ากัน

ระดับพลังงาน แตกต่างกันตามเพศ วัย และกิจกรรม

  • พลังงาน 1600 กิโลแคลอรี – สำหรับเด็ก หญิงวัยทำงาน และผู้สูงอายุ
  • พลังงาน 2000 กิโลแคลอรี – สำหรับวัยรุ่น ชายวัยทำงาน
  • พลังงาน 2400 กิโลแคลอรี – สำหรับผู้ที่ใช้พลังงานมาก เช่น นักกีฬา เกษตรกร กรรมกร
  • ต่อจากนั้นก็มาดูว่า จะกินอย่างไรให้สมดุล ปริมาณพอดี ซึ่งต้องดูจากปริมาณอาหารในแต่ละกลุ่ม

       

        1.3 สิ่งที่ควรค่าแก่การบริโภค

          1. เด็กวัยรุ่น (13 - 19 ปี) วัยรุ่นควรได้รับสารอาหารครบทุกประเภท คือ กินข้าว เนื้อสัตว์ ถั่ว ไข่ น้ำนม ไขมัน ผักและผลไม้ทุกวัน เนื่องจากเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งด้านรูปร่าง หน้าตา จิตใจ อารมณ์ และการร่วมสังคมกับคนอื่นๆ 
             

              2. วัยผู้ใหญ่ (20-40 ปี) เป็นวัยที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว แต่ร่างกายก็ยังต้องการสารอาหารเพื่อนำไปใช้ทำงานของร่างกาย และในการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดทรุดโทรมผู้ใหญ่ควรกิน

อาหาร ให้ครบได้สัดส่วนตามความต้องการของร่างกาย ความต้องการวิตามินยังคงเท่ากับวัยรุ่น สำหรับธาตุเหล็กร่างกายยังต้องการมาก ควรลดปริมาณการกินของหวาน น้ำตาล ไขมันโดยเฉพาะไขมันจากสัตว์เพิ่ม ปริมาณการกินผักและผลไม้มากขึ้น

              3. วัยชรา ไม่ต้องการแคลอรีมากเพราะมีการเคลื่อนไหวน้อย จึงต้องการอาหารประเภทไขมัน และคาร์โบไฮเดรตน้อยแต่ต้องการเหล็กและแคลเซี่ยมมากเพื่อความแข็งแรงของกระดูก ควบคุมการทำงานของประสาท กล้ามเนื้อ และการแข็งตัวของโลหิต


        1.4 สิ่งที่ควรงดเมื่ออยากมีหุ่นสวย


1.น้ำหวาน น้ำอัดลม
          ในช่วงนี้ ควรงดน้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟใส่นมใส่ครีมเยอะ ๆ ไปก่อน เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้คือสาเหตุของความอ้วนที่พุ่งกระฉูดแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งถ้าทานวันนึงมากกว่า 2 แก้วก็จะยิ่งเห็นผลเสียอย่างชัดเจน ควรทานน้ำเปล่าไปก่อน หรือถ้างดไม่ได้จริง ๆ ก็ควรทานแต่น้อยเพื่อให้บรรเทาความอยากชั่วคราว

2.ของหวานทุกชนิด
          เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าของหวานทำให้เกิดความอ้วนมากขนาดไหน โดยเฉพาะเค้ก คุกกี้ ช็อกโกแลตนม ที่มีแคลลอรี่ในปริมาณมาก เพราะฉะนั้นหากไม่อยากหมดสวยก็ควรงดของหวานเหล่านี้ไปก่อน

3.ของทอดทุกชนิด

         โดยเฉพาะอาหารจานด่วน (Fast Food) ที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า น้ำมันที่นำมาใช้นั้น ผ่านการทอดมากี่ครั้งแล้ว นอกจากจะทำให้ไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น ยังส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอีกมากมาย เช่นโรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด เป็นต้น




4.ของขบเคี้ยว
          ผู้หญิงบางคนอาจจะติดกับการทานของเล่นที่เป็นของขบเคี้ยวอย่างมันฝรั่งทอด หรือขนมกรุบกรอบรสชาติอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยผงชูรส แป้ง น้ำตาล ที่จะเพิ่มน้ำหนักของคุณให้มากขึ้นอย่างรวดเร็วได้ หากรับประทานในปริมาณมาก ๆ


5.ผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำตาล
          เรื่องนี้แปลกแต่จริง สาว ๆ บางคนเลือกที่จะทานอาหารที่ไม่ผสมน้ำตาล เพราะเชื่อว่าจะทำให้ไม่อ้วน แต่แล้วก็เกิดผลเสียขึ้นเพราะร่างกายได้รับน้ำตาลไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดภาวะช็อค ที่อาจกลายเป็นโรคเบาหวานขึ้นมา
        







    2.การพักผ่อน

        ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับและความอ้วน

             การนอนหลับมีผลต่อการรับประทานอาหาร และการลดน้ำหนักอย่างไร อย่างแรกคือความสัมพันธ์ระหว่างการนอนไม่พอกับความอ้วน คือคนที่นอนไม่พอ มักจะมีแนวโน้มที่จะหาของกินมากกว่านั่นเอง เป็นการตอบสนองของร่างกายคนเรา ถ้าไม่นอนร่างกายก็จะคิดว่ายังต้องการการเผาผลาญพลังงานอยู่ จะทำให้เกิดความรู้สึกหิว และมีการหลั่งฮอร์โมนที่มีชื่อว่าเลปตินมากขึ้น เลปตินเป็นฮอร์โมนซึ่งถูกสร้างโดยเซลล์ไขมันและส่งสัญญาณไปที่สมองให้รับรู้ความรู้สึกว่าอิ่ม
             เมื่อนอนหลับไม่เพียงพอ ก็แสดงว่าร่างกายไม่ได้พักผ่อน ร่างกายจึงคิดว่ายังต้องการพลังงาน
อยู่ เพราะไม่นอน และต้องการอาหารมากขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างการตื่น จึงทำให้ต้องรับประทานอาหารมากขึ้นและทำให้เกิดความอ้วนในเวลาต่อมา ไม่ใช่เฉพาะรับประทานมากเกินไป แต่ยังเลือกรับประทานผิดอีกด้วย แต่หากช่วงนี้ไม่ได้รับประทานอะไรเลย ร่างกายก็จะทรุดโทรม เพราะความต้องการพลังงาน แต่ไม่ได้รับพลังงานชดเชยในส่วนที่ขาด และจะทำให้รู้สึกหิวบ่อยขึ้นอีกด้วย ส่วนใหญ่ผู้ที่อดนอนมักจะทำเป็นปกติคือ การรับประทานแป้ง และน้ำตาล สารอาหารน้อย แต่พลังงานสูง แม้ว่าจะเลือกอาหารอย่างฉลาดแล้ว ก็ยังอ้วนอยู่เพราะการนอนไม่เพียงพอนั่นเอง


           การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน จะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาล และช่วยควบคุมการสะสมไขมันได้อีกด้วย

        3.การออกกำลังกาย

             การออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียวแต่โทษนั้นก็มีอยู่ด้วย ผมได้ลองจำแนกออกมาถึงประโยชน์และโทษของการออกกำลังกาย มาให้ดูกันครับ ลองดูว่าการออกกำลังกายแบบไหนที่เป็นโทษก็ขอให้หลีกเลี่ยงกันนะครับ


ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
  1. อารมณ์แจ่มใส หลังจากวันที่เคร่งเครียด ถ้าได้ออกกำลังกายให้เหงื่อออกท่วมตัวสักหน่อย ร่างกายจะหลั่งสาร แอนดอฟิน ทำให้เรารู้สึกสดชื่นแจ่มใส 
  2. ช่วยควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้เราควบคุมน้ำหนัก ไม่ให้มากเกินไป และสามารถควบคุมน้ำหนักให้ลดลงมากกว่าปกติได้อีกด้วย 
  3. ช่วยเพิ่มพละกำลังให้ร่างกาย ร่างกายจะสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทำให้เราต้องทำงานที่ต้องใช้แรงได้นานมากยิ่งขึ้น

โทษของการออกกำลังกาย
  1. ไม่วอร์มอัพออกกำลังกายเลยอาจทำให้กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นฉีกขาดได้  ถ้าเราไม่วอร์มร่างกายให้พร้อมแล้วฝืนออกแรงกะทันหันก็มีโอกาสที่ร่างกายจะปรับตัวไม่ทันทำให้ กล้ามเนื้อฉีกขาด หรือเส้นเอ็นฉีกขาดได้ ขอยกตัวอย่างกีฬาเช่น แบดมินตัน เป็นต้น
  2. ต้องใช้เงิน ถ้าไปเข้าโรงยิมคุณต้องเสียเงินค่าเข้าโรงยิม และอาจต้องเสียค่า อุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เช่น รองเท้าวิ่ง เป็นต้น
  3. อาจเกิดการบาดเจ็บ เนื่องมาจากการออกกำลังกายได้ เช่น หกล้ม เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น